วันอาทิตย์, พฤษภาคม 16, 2553

THE BLIND SIDE: ...ด้านที่มืดบอดของการแสดงอันยอดเยี่ยม?!?!? หรอ...


หากไม่บอกว่านี่เป็นหนังที่สร้างจากเรื่องจริง คงต้องบอกว่านี่อาจสร้างมาจากเทพนิยายเรื่องหนึ่ง ซึ่งน่าจะได้แรงบันดาลใจมาจาก Cinderella อย่างเห็นได้ชัด และถ้าเป็นเรื่องแต่ง บอกได้เลยว่าหลายๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในหนัง ล้วนแลดูน่าหัวเราะ และค่อนข้างขาดความน่าเชื่อถืออย่างรุนแรงกันเลยทีเดียว

และไม่ต้องแปลกใจหากคุณจะเห็นทุกสิ่งทุกอย่างในหนังเรื่องนี้เป็นสิ่งที่คุ้นหูคุ้นตาเป็นอย่างดี เพราะนั่นคือสิ่งที่หนังเป็นตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง คือการเล่าเรื่องตามสูตรสำเร็จตายตัว และที่สำคัญ การแสดงระดับคว้าออสการ์มาครองได้หมาดๆ ของ Sandra Bullock จากเรื่องนี้ ต้องยกให้เป็นหนึ่งในความอัปยศที่สุดของประวัติศาสตร์รางวัลนี้อย่างไม่ต้องสงสัย

Sandra Bullock รับบทเป็น Leigh Anne Tuohy อเมริกันผิวขาวฐานะค่อนไปทางร่ำรวยที่มีครอบครัวสมบูรณ์แบบ ทั้ง Sean (Tim McGraw) สามีแสนดี และ S.J. (Jae Head) กับ Collins (Lily Collins) ลูกชายกับลูกสาวนิสัยน่ารัก ทั้งหมดล้วนเป็นคนจิตใจงดงามเหมือนเธอ ดังนั้นการที่ Leigh Anne ตัดสินใจพาเด็กหนุ่มแปลกหน้า แถมยังเป็นคนผิวสีอย่าง Michael Oher (Quinton Aaron) ที่ไม่เคยรู้จักมักจี่มาก่อนให้มานอนค้างคืนที่บ้าน เพียงเพราะเขาบอกว่าไม่มีที่ไป จึงไม่ใช่ปัญหา และแม้จะมีความรู้สึกกังวลใจอยู่บ้างในคืนแรก แต่ทั้งหมดนั้นก็หายไปทันที ที่ตื่นเช้ามาแล้วพบว่าเด็กหนุ่มผิวดำร่างยักษ์คนนั้น ยังคงมีท่าทีเจียมเนื้อเจียมตัว แถมมีระเบียบวินัยอีกต่างหาก เท่านั้น ความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ รวมถึงครอบครัวของเธอเอง ก็เริ่มพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ โดยหลักๆ ก็คือ Leigh Anne พยายามผลักดันให้เขาได้พัฒนาความรู้ของเขาด้วยการเรียนหนังสือให้รู้เรื่องมากขึ้น และที่สำคัญคือการสนับสนุนเต็มที่ให้เข้าร่วมเล่นกีฬาอเมริกันฟุตบอล จนโด่งดังเป็นที่ต้องการตัวของมหาวิทยาลัยมากมาย กระทั่งสุดท้ายกลายเป็นนักกีฬาชื่อดังของอเมริกาจนถึงปัจจุบัน

ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่จะเปรียบเทียบว่านี่เป็นเหมือน Cinderella Man เสียยิ่งกว่าหนังชื่อเดียวกันนี้เมื่อปี 2005 เสียอีก เพียงแต่บทนางฟ้าของเรื่อง ถูกขับเน้นให้เด่นขึ้นจนเป็นตัวละครหลัก และได้รับรางวัลออสการ์ไปอย่างชวนตะขิดตะขวงใจไปอย่างที่เห็น เพราะถึงแม้จะมองด้วยใจเป็นกลางอย่างถึงที่สุดแล้ว แทบไม่มีแง่มุมไหนเลยที่การแสดงของ Sandra Bullock ในเรื่องนี้จะสามารถเอาชนะการแสดงของเจ้าป้า Meryl Streep ที่เข้าชิงในปีเดียวกันจาก Julie & Julia ซึ่งจะว่าไปแล้ว ก็เป็นบทที่มีตัวตนอยู่จริงเช่นกัน และถึงจะเป็นแนวคอมดี้ แต่การแสดงของเจ้าป้า กลับดูมีพลัง และน่าเชื่อถือกว่าอย่างไม่อาจนำมาเทียบได้เสียด้วยซ้ำ นั่นยังไม่นับรวมการแสดงของผู้เข้าชิงรายอื่นอีก ที่ถึงจะยังไม่ได้ดูแบบเต็มๆ แต่แค่ตัวอย่าง ก็ล้วนทำให้คนดูเชื่อในตัวละครเหล่านั้นได้อย่างหมดข้อสงสัยแล้ว

จะว่าไป จะโทษตัว Sandra Bullock คนเดียวก็คงไม่ถูกต้องนัก เพราะอันที่จริง บทก็คือหนึ่งปัญหาสำคัญที่ทำให้การแสดงของเธอสามารถ “เอาออกมา” ได้แค่นี้ และถ้าจะว่ากันตามตรง จะเห็นว่าฝีไม้ลายมือในเรื่องนี้ของเธอนับว่าเหนือกว่าผลงานก่อนหน้านี้ของเธอทุกเรื่องเสียด้วยซ้ำ แต่ก็ไม่ได้มากมายอะไร ยิ่งพิจารณาว่าถึงระดับคว้ารางวัลออสการ์ (หรือแม้แต่รางวัลจากสถาบันไหนก็ตามมาครอง)

จริงอยู่ที่ตัวหนังโดยรวมพูดถึงกีฬาที่เหมือนเป็นกีฬาประจำชาติของชาวอเมริกัน และส่งเสริมความรักในเพื่อนมนุษย์ โดยปราศจากการแบ่งแยก ไม่ว่าจะทางใดก็ตาม แต่หนังในแนวทางนี้ที่ทำได้อย่างยอดเยี่ยม และไม่เป็นเทพนิยาย ล้วนมีปรากฎให้เห็นมาแล้วมากมาย แม้แต่ Crash ที่คว้าออสการ์หนังยอดเยี่ยมปี 2005 มาครอง นั่นก็ว่าแย่แล้ว (เมื่อเทียบกับหนังที่คู่ควรที่สุดในปีนั้นอย่าง Brokeback Mountain) แต่เมื่อมาเทียบกับ The Blind Side ก็จะเห็นว่า Crash นั่นทิ้งห่างเรื่องนี้ไปแบบไม่เห็นฝุ่น และปราศจากข้อโต้แย้ง นั่นเป็นอีกเหตุผลหนึ่ง ที่หนังเรื่องนี้ไม่สมควรแม้แต่มีชื่อเข้าชิงในสาขาหนังยอดเยี่ยมอีกหนึ่งสาขา แม้จะเป็นปีที่เปิดโอกาสให้มีผู้เข้าชิงสาขาใหญ่สุดนี้มากถึง 10 เรื่องก็ตาม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น